วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

“When you’re in love..life is like a romance novel
that you never want to end.”

“เมื่อคุณอยู่ในห้วงแห่งรัก ..ชีวิตก็เหมือนดั่งนิยายที่คุณอ่านไม่จบ”

………

“Who never made a mistake never made a discovery.”
- - Soren Kierkegaard - -

คนที่ไม่เคยกระทำผิดคือคนที่ไม่ได้ค้นหาสิ่งใด

………

To love is nothing. To be loved is something.
To love and be loved is everything!!”
- - Anonymous - -

การได้รักเป็นเพียงความว่างเปล่า การถูกรักเป็นเพียงแค่บางสิ่งบางอย่าง
ส่วนการได้รักและการถูกรัก นั้นเป็นทุกอย่าง

………

“The only abnormality is the incapacity to love.”
- - Anonymous - -

ได้มีรักและสูญเสียมันไป ยังดีเสียกว่า ไม่รู้จักความรักเลย

………

“In real love you want the other’s person good.
In romantic love you want the other person.”
- - Mrgret Anderson - -

คุณต้องการความดีของอีกฝ่ายสำหรับความรักที่แท้จริง แต่คุณต้องการเพียงตัวของเขาในความรักที่ลุ่มหลง

………

“Loneliness is the most terrible poverty.”
- - Mother Teresa - -

ความเปล่าเปลี่ยวเป็นความยากไร้ที่ทรมานที่สุด

………

“You can’t change the past but you can change the future into a better past!!!”
- - Anonymous - -

คุณไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนอดีตได้ แต่สิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนได้คืออนาคตเพื่อที่จะเป็นอดีตที่ดีกว่า

………

“Forget just so you may remember again.”
- - Anonymous - -

ยิ่งพยายามที่จะลืม ก็ยิ่งจดจำได้ขึ้นใจ

………

“The one thing you cannot teach a person is COMMON SENSE.”
- - Anonymous - -

สิ่งหนึ่งที่คุณไม่สามารถสอนคนอื่นคือ สามัญสำนึก

………
“Love may last for just a moment but memory can make that moment last forever…”
- - Anonymous - -

ความรักอาจคงอยู่เพียงระยะเวลาชั่วครู่ชั่วยาม แต่ความทรงจำสามารถทำให้ชั่วระยะเวลานั้น คงอยู่นิรันดร์ได้

………

“Love is not measured by how you feel, but how you make the other person feel.”
- - Anonymous - -

ความรักไม่ได้วัดโดยความรู้สึกของคุณ แต่วัดจากการที่คุณทำให้เขารู้สึกอย่างไร

……..

“Letting go does not mean giving up but accepting that there are things that cannot be.”
- - Anonymous - -

การปล่อยให้เขาไป มิใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการยอมรับในสิ่งที่ไม่สามารถเป็นไปได้ต่างหาก

………

“Listen to your heart, for it knows the truth”
- - Anonymous - -

จงฟังหัวใจของคุณ แล้วคุณจะรู้ความจริง

………

“You may only be one person to the world but you may also be the world to one person.”
- - Anonymous - -

คุณอาจเป็นเพียงคนหนึ่งบนโลกใบนี้ แต่คุณอาจเป็นโลกทั้งใบของใครคนหนึ่งก็ได้

………

“A man overtime falls in love with the woman he is attracted to,
and a woman overtime becomes more attracted to the man she loves.”
- - Anonymous - -

ผู้ชายมักตกหลุมรักคนที่เขาหลงเสน่ห์ และผู้หญิงจะหลงเสน่ห์คนที่เธอตกหลุมรัก

………

“Friendship often ends in love, but love in friendship - never.”
- - Anonymous - -

มิตรภาพมักจบลงด้วยความรัก แต่ความรักไม่มีวันจบลงด้วยมิตรภาพ

………

“If you have reasons for loving someone, then you are using your mind,
but if you love someone for no reason, then you are using your heart.”
- - Anonymous - -

ถ้าคุณรู้ว่าคุณรักใครเพราะอะไร นั่นเพราะคุณใช้ความคิดในการรักเขาคนนั้น แต่เมื่อไหร่ที่คุณรักใครสักคนโดยไม่มีเหตุผล นั่นเพราะคุณใช้หัวใจรักเขา

………

“In the arithmetic of love, one plus one equals everything, and two minus one equals nothing.”
- - Anonymous - -

ในข้อที่ว่าเกี่ยวกับเลขคณิตของความรัก 1+1 จะเป็นได้ในทุกๆ สิ่ง และ 2 - 1 เท่ากับไม่มีอะไรเหลือเลย

………

“He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more;
He who loses faith, loses all.”
- - Anonymous - -
เขา..ผู้สูญสิ้นทรัพย์สินไป
เขา..สูญเสียมากเหลือเกิน
เขา..ผู้สูญสิ้นเพื่อนไป
เขา..สูญเสียมากกว่า
เขา..ผู้สูญสิ้นความศรัทธา
เขา..ผู้นั้น.. สูญเสียยิ่งกว่าใครๆ

………

Great minds discuss ideas; Average minds discuss events;
Small minds discuss people.”
- - Anonymous - -

จิตใจที่ยิ่งใหญ่วิพากย์วิจารณ์ความคิด จิตใจสามัญวิพากวิจารณ์เหตุการณ์ แต่จิตใจที่ต่ำต้อยนั้นวิจารณ์เพียงผู้คน

………

“God gives every bird it’s food, But He does not throw it into it’s nest”.
- - Anonymous - -

พระเจ้ามอบอาหารให้แก่นกทุกตัว แต่ไม่เคยโยนอาหารให้ถึงรังของนกเหล่านั้น

………

cradit :: mthai.com

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ส่งงานแฟรช*





THuNyaRut

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การทำเค้ก เชอร์ไพร์คนรที่คุณรักมั่กมากนะ 555


การทำเค้ก เชอร์ไพร์คนที่คุณรักมั่กมากนะ 555
เค้กชอคโกแลตหน้านิ่ม : ทำอย่างไรให้เค้กหน้าเด้ง ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาล วันวาเลนไทน์ ที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคนรอคอยเพื่อที่จะได้บอกรักใครสักคน วันนี้เรามีสูตรขนมเค้กช็อกโกแลต สูตรเด็ดของคุณจุ๋ม(แม่สลิ่ม) อร่อย ๆ มาฝากกันค่ะ...
เมนู - ชอคโกเเลต ฟัดจ์ เค้ก Chocolate Fudge Cake
จำนวน - 2 ปอนด์ 2 ก้อน
เวลาเตรียม - 1.30 ชั่วโมง
ส่วนผสม ปริมาณเเป้งสาลีทำเค้ก 220 กรัมผงฟู 1/2 ช้อนชาโซดาไบคาร์บอเนต 1
ช้อนชาเกลือ 1/4
ช้อนชานมข้นจืด 250 ml
ผงโกโก้ 4 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 310 กรัม
ไข่ไก่สด 4 ฟอง
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. warmเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
2. ร่อนเเป้ง, ผงฟู, โซดาไบคาร์บอเนต, ผงโกโก้ พักไว้
3. ตีเนยสด, น้ำตาลทราย, เกลือป่นจนขึ้นฟู
4. ใส่ไข่ลงผสมจนเข้ากันดี
5. เทลงในพิมม์ขนาด 2 ปอนด์6. นำเข้าเตาอบประมาณ 30-35 นาที

ตำนานตรุษจีน




ตำนานตรุษจีน


ตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า "กว้อชุนเจี๋ย" หรือ "กว้อเหนียน" เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า "เหนียน" มันออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก เหนียน ทำร้าย
ต่อมาพบว่า เหนียน มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกัน เมื่อ เหนียน ได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็เลยตกใจเผ่นหนีไป เมื่อ เหนียน ไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น ทำให้ เหนียน ตกใจและเผ่นหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน ต้องเผ่นหนีไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัด เหนียน ได้โดยไม่ยากนัก
เมื่อวันส่งท้ายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เหนียน มาถึงในตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน ต่อมา วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็นวันเฉลิมฉลองที่มีแต่ความสุขที่เรียกกันว่า "ตรุษจีน" เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า "กว้อชุนเจี๋ย" หรือ "กว้อเหนียน" เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า "เหนียน" มันออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก เหนียน ทำร้าย
ต่อมาพบว่า เหนียน มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกัน เมื่อ เหนียน ได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็เลยตกใจเผ่นหนีไป เมื่อ เหนียน ไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น ทำให้ เหนียน ตกใจและเผ่นหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน ต้องเผ่นหนีไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัด เหนียน ได้โดยไม่ยากนัก
เมื่อวันส่งท้ายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เหนียน มาถึงในตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน ต่อมา วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็นวันเฉลิมฉลองที่มีแต่ความสุขที่เรียกกันว่า "ตรุษจีน" http://hilight.kapook.com/view/19791

วันตรุษจีน


วันตรุษจีน



ไหว้ตรุษจีน ให้เฮง..เฮง (ไทยโพสต์) โหรจีนชื่อดังแนะไหว้ตรุษจีนอย่างไรให้ เฮง เฮง เฮง ทั้งปี เปิดธรรมเนียมการไหว้ที่ถูกต้องและความหมาย นายพิชัวันตรุษจีนยวัฒน์ อภิชาติธนกิจ โหราจารย์ผู้มีความรู้ในเรื่องวิชาโหราศาสตร์จีนอย่างลึกซึ้ง เจ้าของผลงาน "ลี่ไท่ฟู่ เสริม 12 นักษัตรปีชวด" กล่าวว่า ตรุษจีนหรือปีใหม่ของพี่น้องชาวจีนเป็นเทศกาลสิริมงคลซึ่งจะมีการไหว้เทพเจ้าเพื่อความมีโชคลาภและเป็นสิริมงคล คือ เทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี้ย เขากล่าวว่า การไหว้ตรุษจีนมีประวัติยาวนานย้อนหลังกลับไปถึงสมัยราชวงศ์โจวเมื่อกว่า 3,000 ปีมาแล้ว แต่เดิมมีการไหว้ยาวนานถึง 15 วัน แต่ในปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไป ธรรมเนียมการไว้ตรุษจีนจึงลดลงเหลือเพียง 3 วันคือ 1. วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ หรือ ตี่จู้เอี๊ย ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะบูชาของเจ้าบ้าน 2. วันไหว้ หรือวันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง ตอนเช้ามืดจะไหว้ไป๊เล่าเอี๊ยเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตอนสายจะไหว้ ไป๊เป้บ๊อ หรือการไหว้บรรพบุรุษ ตอนบ่ายไหว้ไป๊ฮ้อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้อง 3. วันขึ้นปีใหม่ หรือวันเที่ยว หรือวันถือ คือวันที่ 1 ของเดือนที่ 1 ของปี หรือชิวอิก ซึ่งจะมีการไหว้เทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ โดยในปีนี้ท่านจะเสด็จลงมาบนโลกเวลา 00.00 น. ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ทางทิศตะวันตก อันเป็นเวลาแห่งขุมทรัพย์ตกบัลลังก์ทอง ทำมาหากินรุ่งเรือง ได้โลคลาภมากมาย ควรไหว้ในช่วงเวลา 03.00-05.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ โดยหันหน้าไปทางทิศดังกล่าว เครื่องสักการะเทพเจ้าแห่งโชคลาภได้แก่ ผลไม้ 5 อย่าง ที่ควรเลือกไหว้เป็นลำดับต้นๆ คือ กล้วยหอม หมายถึงความหอมสดชื่น และเหมือนเล็บมือของพระพุทธองค์ ส้ม หมายถึงโชคลาภหรือมหาโชค แอปเปิ้ล หมายถึงความร่มเย็นเสมอภาค องุ่น หมายถึงความร่มเย็น การไหลมาของเงินทอง สาลี่ หมายถึงให้ได้ผลโดยเร็ว เป็นผลไม้ตามฤดูกาล ที่ห้ามคือ มะเฟือง มะไฟ แตงโม แคนตาลูป มะละกอ นอกจากนี้ยังมีอาหารเจ หรือเรียกว่า เจไฉ่ ประกอบด้วย เห็ดหอม สาหร่ายทะเล ดอกไม้จีน วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้ หมายถึงความมีอายุยืน มีสติปัญญา ฉลาด อุดมสมบูรณ์ เช่นเดียวกับของหวานที่ใช้ไหว้ เช่น ถั่วตัด ข้าวพอง ถั่วเคลือบน้ำตาลต่างๆ หรือที่คนไทยเรียกว่าขนมจันอับ 1 ถาด มีความหมายว่าอุดมสมบูรณ์เหมือนเจไฉ่ ของไหว้ที่ขาดไม่ได้ คือ สาคูแดง หรือขนมบัวลอย จำนวน 3 ถ้วย หมายถึงความกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเครือญาติ น้ำชา 3 ถ้วย หมายถึงความสัมพันธ์ที่ดี สำหรับผู้ที่ไหว้เทพเจ้าเป็นครั้งแรกนายพิชัยวัฒน์ แนะนำว่าควรใช้กุยช่ายสดไหว้ จะช่วยให้สมปรารถนาเร็วขึ้น กระถางธูป 1 ใบ เทียนแดง 1 คู่ แจกันดอกไม้สด 1 คู่ หมายถึงงานมงคลแสดงยศถาบรรดาศักดิ์ กระดาษไหว้หรือเครื่องบรรณาการ น้ำเปล่า 1 แก้ว ข้าว 3 ถ้วย นอกจากของไหว้เทพเจ้าแห่งชาติลาภดังที่กล่าวแล้ว ยังมี ซาแซ หรือโหงวแซ หมายถึงให้มีพร 3 หรือ 5 ประการ ได้แก่ เด็ด ไก่ หมายถึงความเจริญก้าวหน้า หมู 3 ชั้น หมายถึงโชค 3 ชั้น เจริญรุ่งเรือง ปลาต้มและปลาหมึกแห้ง หมายถึงให้เหลือกินเหลือใช้ สามารถนำซาแซและโหงวแซไปไหว้เทพเจ้าชั้นรองลงมาจากเทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี้ยได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง http://chinesenewyear.kapook.com/

ตำนานขนมแห่งความรัก..ซึ้งซะ



ตำนานขนมแห่งความรัก..ซึ้งซะ


ไอ้ทิ หรือพ่อกะทิ ชายหนุ่มโผงผางผู้กำพร้าพ่อแม่ อยู่ตัวคนเดียว พูดจริงทำจริง ขยันขันแข็งเอางานเอาการ เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน แม่แป้ง ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน นางเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไปแล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้ ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง ซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ไอ้ทิไม่ว่ากระไร ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่ ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของไอ้ทิ ด้วยการคลุมถุงชน จัดงานแต่งงานให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมายจะมาทำลายพิธี ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้ จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้ แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย ก็แอบหนี หมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกลเหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์ ได้แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อปากว่า ... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ ไอ้ทิเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมา ก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก ฉับพลัน... ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพรางของผู้ใหญ่ปลั่ง ต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นายของผู้ใหญ่ปลั่ง รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียงไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น... รุ่งเช้า ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผล ภาพเบื้องล่างพบไอ้ทิตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลยสถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมา จนเป็นประเพณีทุกแรมหกค่ำเดือนหก ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้งจะตื่นตั้งแต่มืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน ปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงแคะจากพิมพ์ แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก หรือเรียกย่อๆ ว่า " ขนม ค.ร.ก."...ปล.อ่านแล้ว หิวขนมง่ะhttp://student.sut.ac.th/anurukclub/show_question.php?qs_qno=403

ดอกไม้แห่งความรัก


ดอกไม้แห่งความรัก


.. ดอกไม้ " วันวาเลนไทน์ " ..
มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลาย รูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย
กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น
กุหลาบดำ หมายถึง ความรักนิรันดร์
กุหลาบแดง (red rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ" การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความ หมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน
กุหลาบขาว (white rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์ กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้
กุหลาบชมพู (pink rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรัก ที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้
กุหลาบเหลือง (yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส กุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความ สนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง
สำหรับดอกไม้อื่น ๆ ที่ถูกมาใช้แทนความหมายแห่งความรักก็มี ดอกทิวลิบสีแดง (red tulib) ชาวตะวันตกใช้มันแทนการประกาศความรัก อย่างเปิดเผย คล้าย ๆ กับดอกกุหลาบแดง
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู (pink carnation) ใช้สื่อความหมายว่า "ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ"
ดอกลิลลี่สีขาว (white lilly) แสดงความรักแบบบริสุทธ์ เช่นเดียวกันกับดอกกุหลาบขาว นอกจากนั้นลิลลี่สีขาวยังแสดงถึงความรักแบบอ่อนหวานจริงใจ และเทอดทูน และมักถูกใช้แทนประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้ได้รู้จัก และอยู่ใกล้คุณ "
สำหรับดอก forget-me-not มีความหมายตรงตัวคือได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน
มาถึงดอกไม้ที่เห็นได้ทั่วไปในบ้านเราบ้างดอกทานตะวัน (sunflower) มีความหมายถึงความรักแบบคลั่งไคล้ ความรักแบบบูชา แต่สำหรับชาวตะวันตก ดอกทานตะวันจะหมายถึงความเข้มแข็งอดทน จึงสามารถใช้แทนความรักที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะได้ความรักมา
จะเห็นได้ว่าดอกไม้เป็นประดิษฐกรรมทางธรรมชาติที่มนุษย์เรานำมาใช้เป็นสื่อแทนความหมาย แห่งความรักได้หลายรูปแบบ การมอบดอกไม้ให้กับคนที่เรามีความรู้สึกพิเศษจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ... Vlentine นี้คุณมีดอกไม้ในใจที่จะให้คนที่คุณรักแล้วหรือยังhttp://cyber.thailife.com/00721990/?p=news&NewsID=1232